ตับวัว มีกรดไขมันที่จำเป็นรวมทั้ง EPA กรดอีโคซะเพนตะอีโนอิก(eicosapentaenoic), ดีเอชเอ (docasahexaenoic) และ AA กรดอะราคิโดนิก (arachidonic) รวมถึงวิตามินบี 12 นอกจากนี้ตับยังอุดมไปด้วยธาตุเหล็กที่ช่วยในการสังเคราะห์ เฮโมโกลบินอี (Hemoglobin) ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดแดง
เราแนะนำให้คุณบริโภคตับเป็นประจำทุกวัน เพราะตับมีแร่ธาตุต่างๆ มากมาย รวมถึงวิตามินบี 12 และธาตุเหล็ก เหมาะสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคโลหิตจาง หรือ ภาวะเลือดจาง (Anemia or Anaemia)
ตับวัว มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายเราอยากให้คุณทำความเข้าใจว่าทำไมคุณควรบริโภคตับให้มากขึ้น
-อุดมไปด้วยโปรตีน
ตับวัวอัดแน่นไปด้วยกรดอะมิโน เพราะกรดอะมิโนจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของเซลล์ร่างกายและยังช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูร่างกายของเรา ตับประมาณ 12 กรัมให้กรดอะมิโนถึง 290 เมื่อเทียบกับโปรตีนชนิดอื่น ๆ
-เป็นแหล่งรวมของวิตามินบี 12
ตับวัวมีวิตามินบี 12 สูงจะช่วยแก้ปัญหากับความผิดปกติของระบบประสาท เพราะการขาดวิตามินบี 12 จะทำให้เกิดพฤติกรรมเบี่ยงเบนและก่อให้เกิดโรคประสาท ดังนั้นผู้ที่ป่วยจากโรคขาดวิตามินบี 12 จึงต้องบริโภคตับวัวให้เป็นประจำทุกวัน
-อุดมไปด้วยวิตามินเอ (retinol)
วิตามินเอเป็นวิตามินที่สำคัญสำหรับสายตา ซึ่งหากขาดวิตามินชนิดนี้อาจนำไปสู่อาการตาบอดในช่วงเวลากลางคืนวิตามินเอยังสำคัญสำหรับการช่วยสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อต่อสู้กับโรคภัยต่างๆ และตับวัวมีปริมาณของวิตามินเอที่เพียงพอ
-อุดมไปด้วยแร่ทองแดง
ทองแดงเป็นแร่ธาตุที่สำคัญสำหรับการทำงานของเอนไซม์ในร่างกาย ทองแดงยังมีความสำคัญสำหรับการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย เพื่อต่อสู้กับอนุมูลอิสระที่สามารถนำพาไปสู่โรคมะเร็งตับ
ข้อควรระวัง
การบริโภคตับวัวยังมีข้อเสียอย่างหนึ่งคือ มันมีคอเลสเตอรอลสูงหากบริโภคมากเกินไปจะทำให้คอเลสเตอรอลเพิ่มมากขึ้นในการไหลเวียนเลือดของคุณ
และอาจนำไปสู่ความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ดังนั้นคุณควรบริโภคตับวัวให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม
อ้างอิง : healthbenefitsofeating.com
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น